วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฮือฮาภาพประทับใจหมานั่งไหว้พระ

สุดทึ่งสุนัขแสนรู้ นั่ง 2 ขา ยกขาหน้าทำท่าไหว้พระร่วมใส่บาตรกับเจ้าของ เล่นเอาคนที่เห็นอมยิ้มแก้มปริ พร้อมหยิบกล้องมาบันทึกภาพน่ารักกันเปนแถว เจ้าของบอกซื้อมาจากคลองถมตั้งแต่ตัวยังเล็ก พออายุได้ 6-7 เดือน เริ่มมีพฤติกรรมเหมือนคน มานั่งยกขาหน้าไหว้พระที่บิณฑบาตผ่านหน้าบ้านทุกเช้า

- ก็ดูดีกว่าคนไหว้ผี หมาได้แบบอย่างจากคนดี ถ้าไปอยู่กับคนที่ชอบขูดเสาหาเลขหวย หมาก็คงเอาอย่างตะกุยไม้เหมือนเจ้าของ

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แง่คิด..สะกิดธรรมข่าวไทยรัฐ 30 พ.ย. 52















จับคนจ้างยิงนายกอบต.

ตำรวจตามรวบตัวได้แล้วยกแก๊งทีมมือปืนยิงนายก อบต.ดอนมะนาว ซัดทอดเมียอดีตนายก อบต.เดียวกันเป็นผู้บงการ แค้นแทนผัวที่แพ้เลือกตั้งและยังถูกกีดกันจนไม่สามารถรับเหมางานใน อบต.ได้ ว่าจ้างทีมสังหาร 2 แสนบาทหมายเอาชีวิต แต่ขณะลงมือพลาดเป้ากระสุนถูกรองนายก อบต.รับเคราะห์แทน ส่วนนายกเป้ากระสุนสาหัส

- จ้างทำชั่วเท่ากับจ้างทำร้ายตนเอง

แต่งคล้าย191บุกร้านชิงทองหนีไม่รอดถูกประชาทัณฑ์

หนุ่ม รปภ.ปฏิบัติการเย้ยกฎหมาย แต่งกายเหมือนตำรวจ 191 แถมพกปืน วิทยุสื่อสาร และกระบอง บุกเข้าไปในร้านทอง ทำทีมาตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนขอดูลายสร้อยคอทองคำหญิงสาวเจ้าของร้านไม่เอะใจ รวบสร้อยทองหนักรวม 10 บาท มูลค่าเกือบ 2แสนให้ดูทันที พอสบโอกาสรีบเชิดวิ่งหนีแต่ไปไม่รอด ชาวบ้านพากันรวบตัวไว้ได้ ถูกรุมประชาทัณฑ์สะบักสะบอม สอบสวนยังปากแข็ง คาดก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

- ทองเป็นของนอกกาย ไม่เป็นสิ่งที่ให้ความสุขที่แท้แก่ชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสว่าเงินทองดุจอสรพิษ

ทลายผับจับเด็ก200

พบวัยรุ่นอายุต่ำกว่า20 ปี มั่วสุมกว่าสองร้อยคน แถม ยังไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ รรท.ผบช.น.ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนเล่นงานตำรวจท้องที่ ผบก.น.1 ยันจับเป็นประจำ แต่ครั้งนี้อาจรอดหูรอดตา ป.ป.ท.ขู่ หากพบปล่อยปละละเลยจะจัดการฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เตรียมสั่งปิดผับฉาว 30 วัน งงตัวเลขคนถูกจับของ ป.ป.ส. กับ บก.น.1 ไม่ตรงกัน

- แล้วเขมรรุกล้ำเขตแดนไทย ใครรับผิดชอบ ใครกล้าจับ

มาร์คโชว์พระโต้เสือเกราะแจง ไม่ได้ใส่ปรับครม.ธ.ค. ชทพ.-พผ.รุกขอแลกเก้าอี้

"อภิสิทธิ์" โชว์พระเครื่องคล้องคอนับสิบองค์ให้นักข่าวดู ขำกลิ้งข่าวสวมเสื้อเกราะป้องกันโดนลอบทำร้าย ยันใส่เสื้อยืดตัวเดียวแต่สงสัยจะอ้วนขึ้น

- พระที่แท้จะกล้าละชั่ว ทำดี มีจิตใจแจ่มใส ไม่ว่าจะอยู่ภาคใต้หรือเชียงใหม่

ฆ่าเศรษฐินีพันล้านสาวไฮโซดักยิงคาเก๋งบีเอ็ม

ยิงถล่มไฮโซสาว "สุนัทที เนื่องจำนงค์" มือปืนดักยิงหน้าหมู่บ้านโครงการหรูย่านอ่อนนุช สุดสลด เสียชีวิตก่อนถึงมือหมอ พยานยันคนร้ายมาดักรอเหยื่อ ก่อนเดินเข้าไปยิงอย่างใจเย็น แล้วขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่เพื่อนโฉบมารับ ขี่หลบหนีไป ตำรวจเชื่อทำเป็นขบวนการ มุ่งปมขัดแย้งธุรกิจ เผยผู้ตายทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมู่บ้านหรูในเมืองกรุง และบ้านพักตากอากาศ มูลค่านับพันล้านบาท

- เงินหรือรถบีเอ็มมิใช่หลักประกันที่จะคุ้มครองชีวิตเราให้เป็นสุขได้


วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

เสกอักษร ศรัทธาสงฆ์ (จากเสือเป็นสงฆ์ 1)

แผงหนังสือในปัจจุบันมีวารสาร นิตยสาร ฯ ต่าง ๆ มากกว่า นสพ.(ข่าว)รายวัน

นอกจากมีวางขายในร้านหนังสือเล่ม หรือบุ๊คส์ช็อพทั่วไปแล้ว

ตามแผงปลีกย่อยทั่วในในอาคาร เพิงริมทาง ฯลฯ ที่วางขาย นสพ.รายวัน

ก็มักมีบรรดาวารสารเหล่านี้วางคู่กันเสมอ

หากกวาดตามองจะเห็นพรืดทั้งแผงด้วยวารสารหลัก ๆ เป็น 2 ประเภทคือ

ประเภทที่เกี่ยวกับวงการบันเทิง และวงการพระเครื่อง ฯ

กระแสความเชื่อ ความศรัทธา ในวงการพระเครื่อง, พระเกจิ ฯ มาแรงและยาวนาน

แรงพอจนต้องขยับทะยานขึ้นปรากฏให้เห็นประจำวัน ใน นสพ.รายวัน !

และมี นสพ.บางฉบับต้องจัด Section เพิ่มให้เป็นที่เป็นทางเฉพาะ

ไม่น้อยหน้าส่วนที่เป็นข่าวด้านกีฬา บันเทิง สังคม ฯ

กล่าวด้านวงการพระเครื่อง...เราเป็นผู้เพียงศรัทธา ไม่เป็นเซียน...

แต่นำมาสรุปย้ำเสริม เพลิน ๆ

พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ

จากข่าวสด*วันนี้(24 พค.52) ได้รายงานข่าวเกจิหนึ่ง นอกจากอยู่ในหน้าในปกติแล้ว

ยังยกจั่วไว้บนหน้า 1 ว่า...."ไหว้ครู 104 ปีพ่อท่านเอื้อม พระเกจิอาวุโสสำนักเขาอ้อ"

(พ่อท่าน,เป็นคำเรียกภาษาถิ่นใต้ ทำนองเดียวกับคำว่า"พ่อหลวง"

ซึ่งคำกลางเรียกกันว่า "หลวงพ่อ" นั่นเอง)

สรุปและเสริมจากข่าวนี้ได้ว่า ท่านเป็นเพระเกจิอาวุโสสายตรงจากสำนักเขาอ้อ(พัทลุง)

ศิษย์และคนทั่วไปศรัทธากันว่าท่านเป็นพระเกจิ จอมขมังเวทย์

ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาส อยู่ที่ วัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ เมืองนครศรีธรรมราช

ท่านเป็นศิษย์สำนักเขาอ้อ รุ่นน้องท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช

(อดีตนายตำรวจผู้ปราบโจรสำคัญมากมาย)

ซึ่งท่านขุนพันธ์ ฯ เคยกล่าวไว้ตอนบั้นปลายชีวิตท่านว่า...

"ในเรื่องปลุกเสกก็นเห็นจะมีเพียงพระเอื้อมเท่านั้นที่พอจะฝากฝังได้"

ตอนหนึ่งที่น่าสนใจตรงที่ว่า

ก่อนที่พ่อท่านเอื้อมจะบวช(บวชเมื่อ พ.ศ.2514, อายุท่าน 65 ปี)

ในอดีตท่านเคยเป็นเสือ(โจร)มาก่อน ซึ่งยุคนั้นท่านเคยถูกไล่ล่าจากท่านขุนพันธ์หลายครั้ง

วัญในด้านเมตตามหานิยม คงกระพันฯ แคล้วคลาด ฯ

ข่าวมาจบลงว่า ในวาระท่านครบ 104ปีนี้ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายชื่อว่า

"รุ่นไหว้ครู 104 ปี" เพื่อหาทุนสร้างหอฉัน จัดพิธีสร้างและไหว้ครูขึ้น-

ในวันที่ 7 มิถุนายนศกนี้ ณ วัดบางเนียน เมืองนครศรีฯ.

........................

(จะเล่าต่อในวาระเมื่อครั้งเราได้อยู่ร่วมอารามกับ ไอ้เสือหนึ่ง

ซึ่งเป็นพระอีกรูปหนึ่ง เลิกการเป็นโจรกลับมาบวช)

---------------

ที่มา: นสพ."ข่าวสด" วันที่ 24 พค.52




Tag: สื่อสิ่งพิมพ์, ฅพระเกจิ, พ่อท่านเอื้อม, ไอ้เสือในอดีต

เขียนโดย sidabhai ที่ 2009-05-25 13:21:58 น. 2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1, เว็บไซต์ :

สวัสดีค่ะคุณลุงขา..
บทความนี้หนูอ่านไม่จบค่ะ
หนูชอบไปวัด พ่อกับแม่ครอบครัว
ก็คลุกคลีอยู่กับวัด มาทุกรุ่นทุกสมัย
ทำบุญ ใส่บาตรทุกวัน
วันพระ ก็ไปสวดมน..
แต่ไม่มีไครชอบอ่านหรือซื้อวารสาร
ที่เราเรียกกันว่า หนังสือพระ เลยค่ะ
แต่หนูแปลกใจ หนุ่มๆวันกลางคน บางคน
เขาเล่นการพนัน กินเหล้า เที่ยวผู้หญิง
ไม่เคยเห็นว่าเข้าวัด ทำบุญเลย นอกจาก
เวลามีงานศพแล้วเขามีเล่นไฮโลกันน่ะค่ะ
...........
บางทีหนูก็นึกอยากจะลองหามาอ่าน
มาเปิดดูเหมือนกันนะคะ..
ว่าเขามีเนื้อหา อะไรบ้างค่ะ
แต่อย่างน้อยๆ ก็ ดีที่ว่า ประเทศไทย
เมืองพุทธ ก้อยังไห้ความสำคัญ
กับเรื่องพระ เรื่องเจ้านะคะ
หรือคุณลุงว่าไงคะ???????

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

พระครูวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) วัดพวงมาลัย อำเภอเมือง จังหวัดสุมทรสงคราม (จบ)

พระครูวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) วัดพวงมาลัย อำเภอเมือง จังหวัดสุมทรสงคราม (จบ)

หลวงพ่อแก้ว นำใบลานมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดประมาณ 5-6 นิ้ว แล้วจึงนำไปผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาลงอักขระบนใบลาน

ตะกรุดใบลานของหลวงพ่อแก้ว ลงอักขระด้วยตัวขอม อ่านได้ว่า "ภู ภิ ภู ภะ" ล้อมรอบด้วยตัว "มิ" ไว้ตรงกลางประกอบด้วยอักขระหนุนตามสมควร

สำหรับคาถาในการอาราธนาตะกรุดใบลานบังปืนนั้น ให้ตั้งนะโมสามจบ แล้วเอาตะกรุดจบที่หน้าผากว่าคาถา ดังนี้

"ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ"

เมื่อคาดเข้าติดตัวให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือก ดังนี้

"ภูภิ ภูภะ อะมิ มิมังกายะพัทธนัง อธิษฐานมิ"

ในการสังเกตตะกรุดของหลวงพ่อแก้ว มีทั้งแบบที่สร้างอย่างธรรมดา และที่สร้างขึ้นแบบลงรักปิดทองร่องชาด และแบบจุ่มรักลงไปแล้วผูกเชือกด้วยก็มี

การสังเกตว่าเป็นตะกรุดใบลานบังปืนของหลวงพ่อแก้ว ให้สังเกตการม้วนใบลานที่ประณีต และการมัดเชือกด้วยความพิถีพิถัน มีการตัดปลายอย่างเรียบร้อยทุกดอก

นอกจากนี้ ความฉ่ำเก่าของใบลาน ซึ่งของแท้ต้องมีสีเหลืองฉ่ำ และไม่เก่าเพราะการอบควันมาอย่างเด็ดขาด



ในปี พ.ศ.2459 ได้จัดสร้างเหรียญปั๊มรูปเหมือนของหลวงพ่อแก้วขึ้นมา เหรียญปั๊มรูปเหมือน พระวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) นั้น มีด้วยกัน 2 บล็อค กล่าวคือ บล็อคหนึ่ง คือ บล็อควัด อันเป็นบล็อคนิยม หรือพิมพ์นิยม และอีกบล็อคหนึ่ง คือ บล็อควัง วังที่ว่าคือ วังบูรพา ของสมเด็จกรมพระยาภาณุพันธวงศ์วรเดช ซึ่งทรงเคารพนับถือพระวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร)

เพราะ "บล็อควัง" นั้นทางเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ในวังบูรพาได้ให้ช่างแกะพิมพ์จัดสร้างขึ้นมา เหมือนกับ "บล็อควัด" จะแปลกแตกต่างไปจากกันตรงเส้นสายลายเส้นเท่านั้น และมีบางท่านกล่าวว่า เหรียญบล็อควังนั้นไม่ทันพระวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) แม้บนเหรียญจะระบุว่าสร้างปี พ.ศ.2459 ก็ตาม ด้วยเหตุดังกล่าวความนิยมจึงลดหลั่นจากเหรียญบล็อควัดไป

แต่ความสวยงามของแบบพิมพ์แล้ว "บล็อควัด" สู้ "บล็อควัง" ไม่ได้แน่นอน

เหรียญปั๊มรูปเหมือนพระวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) เป็นเหรียญรูปไข่ใหญ่ สร้างด้วยเนื้อทองแดง

ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนพระวินัยธรรม (แก้ว พรหมสโร) นั่งท่าสมาธิเต็มรูป รอบรูปเหมือนเป็นลายช่อดอกไม้แบบพวงมาลัย เหนือศีรษะเป็นตัว "อุณาโลม" พร้อมอักขระขอบโดยรอบขอบว่า "พุทยัด ธาปิด ยะอุด นะอุด โมอัด" และปี พ.ศ. ที่สร้าง "๒๔๕๙"

ด้านหลัง เป็นอักขระขอม โดยตรงใต้หูเหรียญเป็นตัว "อุณาโลม" ตรงกลาง คือ "ภู ภี ภุ ภะ" ส่วนแถวล่างนั้นเป็นนามฉายาว่า "พรหมสโร"

ปี พ.ศ.2459 นอกเหนือจากสร้างเหรียญปั๊มรูปเหมือนแล้ว ยังได้สร้างเหรียญปั๊มรูปพระพุทธขึ้นมาด้วย ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับเหรียญปั๊มรูปเหมือน หากด้านหน้าตรงกลางเป็นรูปจำลองพระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ

ในปี พ.ศ.2460 ยังได้นำเหรียญปั๊มรูปเหมือนบล็อควัดไปถอดแบบ แล้วหล่อขึ้นเป็นเหรียญหล่อ ออกที่วัดเขาอีโก้ จังหวัดเพชรบุรี

ส่วนเหรียญหล่อพระพุทธนั้น ชาวบ้านได้พากันนำทองเหลือง ทองแดง มาบริจาคร่วมสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2460 มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เศียรแหลม และ พิมพ์เศียรโล้น

ด้านหน้า เป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ประทับบนอาสนะฐานบัวเม็ด มีอักขระขนาบข้าง

ด้านหลัง เป็นอักขระยันต์อ่านว่า "อุดธัง อัดโธ นะ โม พุท ธา ยะ นะ มะ พะ ธะ นะ อุด โม อัด"

เหรียญมีกระแสเนื้อออกเหลืองอมแดง เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นจากการหล่อ พื้นผิวติดไม่ชัดเท่าที่ควร แต่ก็มีความงามในอีกมิติหนึ่ง

การพิจารณาจึงจำเป็นต้องดูเนื้อหาความเก่า และกระแสโลหะ ตลอดจนพิมพ์ทรง

ยังมีเหรียญหล่ออีกพิมพ์หนึ่ง ที่นักสะสมพระเครื่องเรียกขานกันว่า "เหรียญข้ามฟาก" แท้จริงคือ เหรียญหล่อใบสาเกเล็ก ซึ่งต่อมาหลวงพ่อบ่ายได้ถอดพิมพ์สร้างขึ้นในห้วงระยะที่ท่านได้ข้ามฟากกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม เมื่อปี พ.ศ.2464 โดยก่อนหน้าได้ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดพวงมาลัย

เหรียญหล่อใบสาเกเล็กของหลวงพ่อแก้ว ได้สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2459-2460 เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคร่วมสร้างอุโบสถหลังใหม่ของวัดพวงมาลัย